07 ม.ค.
การทำ IB full diploma ในโรงเรียนหลักสูตร IB นั้นอาจจะเป็นใบเบิกทางที่เปิดโอกาสมากกว่าสำหรับน้องๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองนั้นอยากเข้าคณะไหน เรียนต่อในประเทศหรือนอกประเทศ เพราะการที่หลักสูตร IB นั้นได้รับการยอมรับไปทั่วโลกด้วยความ Well-rounded ของเนื้อหาและการศึกษาทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมอย่างเข้มข้น
ดังนั้นการทำคะแนน IB full diploma ที่มีครบทั้ง TOK, CAS และ EE ได้ดีนั้นย่อมแปลว่าน้องๆ มีโอกาสที่จะเข้าเรียนหมอที่ต่างประเทศได้ แต่น้องๆ ที่เรียนโรงเรียนนานาชาติที่มีหลักสูตร IB ให้เลือกหลายๆ คนอาจจะกำลังสับสนว่า ถ้าเราจะเข้าแพทย์รอบ 1 ในไทย นั้นเราจำเป็นที่จะต้องทำ IB full diploma หรือเปล่า หรือเราสามารถเรียนแค่บางวิชาก็พอ
วันนี้พี่แอดมินเลยรวบรวมข้อมูลและบทสัมภาษณ์ จาก น้องยูโร RIS มาเพื่อไขความกระจ่างกันครับ โดยเรามาเริ่มกันกับวิชาส่วนมากที่ น้องๆ อินเตอร์ ต้องใช้เพื่อยื่นเข้าแพทย์รอบพอร์ต (และทันตะ) กันนะครับ
รวมวิชาที่ต้องยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์รอบ 1 สำหรับเด็กนานาชาติ
ในส่วนของน้องๆ ที่อยากรู้ Requirements แบบละเอียดของแต่ละมหาวิทยาลัย สามารถคลิกที่นี้ได้เลยครับ University Admission Requirements for Medical Program
เมื่อ SAT Subject Test และ BMAT ยกเลิกการสอบในปีต่อๆ ไปแล้ว น้องๆ ต้องคอยติดตามการประกาศจากแต่ละคณะอย่างใกล้ชิดเพื่อคอยดูว่าทางคณะให้ใช้วิชาอะไรในการสอบเข้าแทนนะครับ หรือคอยตามเพจ ignite A* ไว้ พี่แอดมินจะนำข้อมูลมาบอกให้เร็วที่สุดเลยครับหากมีอะไรเปลี่ยนแปลง
ต่อไปเราจะมาคุยกับนักเรียน ignite A* คนเก่งของเรา น้องยูโร จากโรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา (RIS) ถึงการเตรียมตัวยื่นคะแนนเข้ามหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ รอบพอร์ต กันครับ
ยูโรติดคณะแพทย์ รอบไหน บ้างนะครับ?
ติดคณะแพทย์รอบ Portfolio ทันตะ จุฬาครับ (นักเรียนที่มีความเป็นเลิศทางด้านภาษาอังกฤษ) เป็น 1 ใน 4 คนที่รับของปีนี้ครับ นอกจากนี้ยังติดโครงการ PCCMS หลักสูตรแพทยศาสตร์ของวิทยาลัยเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ที่ร่วมกับ UCL อีกด้วย แต่สุดท้ายเลือกทันตะจุฬาครับ เพราะคิดว่าน่าจะอยากเป็นหมอฟันมากกว่าครับ
แล้วตอนเรียนที่โรงเรียน เลือกวิชา IB ตัวไหนบ้างครับ? แล้วทำไมถึงไม่เลือกทำ IB full diploma?
รุ่นพี่ที่โรงเรียนแนะนำต่อๆ กันมาครับ ว่าถ้าอยากเรียนหมอ ในประเทศไทย เลือกเรียนสี่ตัวนี้ก็พอ ไม่ต้องทำ IB Full diploma ก็ได้ เพราะเป็นวิชาหลักที่มีเนื้อหาเข้มข้นมากพอที่จะเอาไปใช้ต่อยอดได้ในการเรียนหมอต่อไป ที่เลือกวิชา Biology Chemistry Physics เป็น Higher level เพราะเนื้อหาเข้มข้นกว่า อีกทั้งมหาวิทยาลัยก็กำหนดว่าต้องเป็น Higher level เท่านั้นสำหรับสามวิชานี้ แต่ในส่วนของ Math เลือกเป็นแค่ Standard level เพราะ Higher เนื้อหายากมากครับ แล้วมหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับด้วยว่าในส่วนของ Math ว่าต้องเป็น Higher level นะ เลยคิดว่าทำแค่ Standard level ก็พอ
นอกจากนี้ Requirements ของหลายมหาวิทยาลัยในไทยก็รับคะแนน IB สี่วิชานี้เหมือนกันครับ อย่างที่ยื่นเกรดไปก็ยื่นแค่ 4-5 เทอมแล้วแต่ละคณะครับ ซึ่งเรียนหลักสูตร IB มาผมคิดว่าแอบได้เปรียบนิดหน่อยด้วยนะ เพราะพอ convert มาเป็น GPA แบบไทยแล้วได้ค่อนข้างเยอะครับ
จริงไหมที่ TOK, CAS, EE ก็ช่วยเราในแง่ของการได้ฝึกทำวิจัยและเตรียมพอร์ตแพทย์ เพื่อเข้าแพทย์รอบ 1 นะ
(TOK = Theory of Knowledge, CAS = Creativity, Activity and Service, EE = Extended Essay )
ใช่ครับ จริงๆ การทำ 3 วิชานั้นเพิ่ม โดยเฉพาะ CAS จัดได้ว่าช่วยได้เยอะเลยในแง่ของการเตรียมเข้าแพทย์รอบพอร์ต เพียงแต่ว่าผมมองว่าการออกมาทำกิจกรรมจิตอาสาข้างนอกนั้นสามารถกำหนดในเรื่องของเวลา ยิดหยุ่นได้มากกว่า งานไม่หนักเท่ากับการทำ CAS ในโปรแกรมของ IB ของโรงเรียนเลย เพราะไม่ต้องเขียน essay ส่งอาจารย์ พอไม่ต้องทำในส่วนนี้กับ TOK และ EE เราก็สามารถเอาเวลาที่มีไปเตรียมตัวเรียนติวรอเข้าคณะแพทย์ให้ได้คะแนนดีได้ครับ ผมเลยมองว่าถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าอยากเรียนหมอที่ไทย ก็ไม่จำเป็นที่ต้องเรียน IB Full diploma และถึงจะไม่ได้ทำ IB Full diploma การเรียนที่โรงเรียนก็มีหน่วยกิตที่ต้องเก็บให้ครบอยู่ดีครับ เพื่อไม่ให้เราว่างเกินไป แต่วิชาอื่นที่เราเลือกเป็นวิชาที่โรงเรียน provide ให้เอง พวก subject ย่อยเช่น psychology หรือ art อะไรแบบนี้ครับ
แล้วถ้าจะไปต่อเมืองนอกละครับ คิดว่ายังจำเป็นอยู่ไหม?
ในกรณีที่จะไปต่อเมืองนอก คิดว่าควรจะทำ IB full diploma ครับ เพราะที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศเค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกว่าถ้าเราทำจบโปรแกรม เพราะ IB ถือว่าได้รับการยอมรับระดับโลก แต่ถ้าที่ไทย แล้วเราเป็นเด็กโรงเรียนนานาชาติ คิดว่าไม่จำเป็นขนาดนั้นครับ มันจะหนักไป ถ้าจะเข้าไทยมีแค่พวกวิชา Triple Science Subjects และ Math ส่วนมากก็พอแล้ว ในการยื่นหลายๆคณะในไทยก็ดูคะแนนเป็นรายวิชาไปครับ ไม่ได้บังคับว่าต้องทำ full diploma แบบทั้งหมด
ยูโรเรียนคอร์สไหนกับ IGNITE บ้างครับ แล้วเคยเข้าร่วมกิจกรรมกับเราด้วยไหม?
เรียน Anywhere บางทีตารางเวลาผมอาจจะไม่ตรงกับคอร์สสด การเรียนออนไลน์ Anywhere ผมเลยมองว่าสะดวกกว่า ชอบที่เรียนที่ไหนก็ได้ด้วย ทบทวนได้เรื่อยๆ อีก นอกจากนี้ยังเคยเข้า กิจกรรม Mock Interview (MMI) ของที่นี่ด้วย ชอบมากเพราะคำถามค่อนข้างตรง ช่วยในเรื่องของการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ได้ดีเลยครับ ลดความตื่นเต้นลงตอนเข้าสัมภาษณ์จริง แนะนำให้น้องๆ ที่เรียนที่จะสอบเข้าหมอรอบ 1 ทุกคนร่วมกิจกรรมนี้เลยครับ
ก่อนจะเตรียมตัวสำหรับเข้าแพทย์รอบ 1 ยูโรเริ่มติววิชาอะไรก่อนหลังบ้างครับ
ผมเตรียมตัวติว SAT Subject Tests มาเรื่อยๆ ตั้งแต่เกรด 10 แล้วครับ แล้วก็เก็บผลงานพอร์ตมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เกรด 10 เช่นกันครับ ผมมองว่าถ้าเรารู้ตัวเร็วก็ดีครับ จะได้ทำรู้ว่าควรเลือกวิชาไหนเป็น Higher level แล้วเอาเวลามามุ่งเตรียมตัวทำคะแนนส่วนที่เราอาจจะอ่อนหรือไม่ถนัดหน่อย เสียดายบางคนรู้ตัวช้าว่าอยากเข้าแพทย์ที่ไทย มาเตรียมตัวช่วงหลังๆ อาจจะทำ Portfolio แพทย์ ไม่ทันแล้วครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลดีๆ จากน้องยูโรและการเลือกวิชา IB เพื่อสอบเข้าคณะแพทย์และทันตะ จุฬา อย่างไรก็ตาม ในปีต่อๆ ไปที่ มีการเปลี่ยนแปลงในด้านของการยื่นคะแนนสอบเพราะ SAT Subject Tests ที่กำลังจะยกเลิกไปนั้น ปกติแล้วคะแนนที่สอบไว้ยังคงใช้ได้อีกประมาณ 2 ปี แต่เรายังคงต้องตามดูเกณฑ์การยื่นคะแนนที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะครับ
บอกเลยว่าฝันไกลแค่ไหนก็ไม่เกินเอื้อม หากเรารู้เป้าหมายก่อนและเตรียมตัวเร็วตั้งแต่เนิ่นๆ เหมือนน้องยูโร สำหรับน้องๆโรงเรียนนานาชาติหลักสูตร IB ที่อยากมุ่งสู่อาชีพสายวิทยาศาสตร์ มีความตั้งใจจะเข้าสู่เส้นทางการเป็นหมอ ที่ ignite A* เรามีคลาส 1on1 วิชา IB เพื่อช่วยกรุยทางให้น้องๆ ได้ perfect score อย่างที่ต้องการเลยครับ
การันตีด้วยความสำเร็จของน้องที่สอบติดแพทย์รอบ Portfolio เยอะที่สุดทุกรุ่นทุกปี !
และหากต้องการความช่วยเหลือเข้าแพทย์รอบพอร์ต ในแง่ของการทำ Portfolio แพทย์ ให้โดนใจกรรมการ แนะนำรายวิชา เก็บกิจกรรม และลอง MMI สามารถติดต่อ Startegic Advisors ของ A* ได้เลย! มั่นใจได้ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี ติดต่อเรา เพิ่ม ignite A* เป็นเพื่อนในไลน์ และสอบถามได้เลย!
