fbpx
logotype

ตอบครบทุกคำตอบ หลักสูตร IB คืออะไร? ดีจริงไหม?

บอกครบทุกคำตอบ หลักสูตร IB คืออะไร? ดีจริงไหม?

เจาะลึก International Baccalaureate ระบบการศึกษาแบบข้ามประเทศ

What is IB

         ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่าเทรนด์การเรียนหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยกำลังมาแรง เนื่องจากรูปแบบการศึกษาที่สามารถปรับใช้ได้อย่างสากลนั้นเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ น้องๆ บางคนอาจจะเคยเสาะหาข้อมูลและพอทราบกันบ้างแล้วว่าในประเทศไทยนั้นมีหลักสูตรนานาชาติหลายรูปแบบ ไม่ว่าเป็นจะระบบอังกฤษ อเมริกัน หรือสิงคโปร์ แต่วันนี้พี่ๆ Ignite A* จะพาน้องๆ มาดูอีกหลักสูตรหนึ่งที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน และขึ้นชื่อได้ว่าเป็นรูปแบบการศึกษาข้ามประเทศที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว นั่นก็คือระบบ “IB” หรือ “International Baccalaureate” พร้อมตอบทุกคำถามว่า หลักสูตร IB คืออะไร? ดีจริงไหม? มาเริ่มกันเลย..

ระบบ IB คืออะไร?

         หลักสูตร IB Programme นั้นย่อมาจาก International Baccalaureate คือ ระบบการศึกษาที่มีการใช้แพร่หลายทั่วโลกถึง 150 ประเทศ โดยหลักสูตรนี้ถูกจัดตั้งขึ้นมาให้เป็นระบบการศึกษารูปแบบใหม่ที่มีความสากล ได้รับการยอมรับจากทุกมุมโลก และไม่อิงตามรูปแบบการเรียนของประเทศใดเป็นพิเศษ ซึ่งก็มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของนักเรียนที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนสถาบันหรือประเทศเรียนบ่อยครั้งอีกด้วย อย่างถ้าเป็นระบบอื่นๆที่เป็นที่นิยมก็มักจะมีแม่พิมพ์มาจากประเทศหลัก เช่น หลักสูตร IGCSE/A-Level ก็จะมีการปรับต้นแบบจากการศึกษาของสหราชอาณาจักร หรือ หลักสูตร AP (Advanced Placement) ก็จะอิงจากระบบอเมริกัน อย่างไรก็ตาม IB นั้นจะเน้นความเป็น Global และหลากหลาย เช่น ในการเรียนก็อาจจะเลือกใช้ Case Study จากหลายๆ มุมโลก นอกจากนี้ตัว IB ก็ยังนำคะแนนไปยื่นเข้าสอบหรือสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศอีกด้วย

IB Program มีกี่ระดับชั้น?

IB programme

หลักสูตร IB จะมีทั้งหมด 3 ระดับชั้นคือ

         1. หลักสูตรการศึกษาระดับต้น (IB Primary Years Programme, PYP – Grade 1 to 5) สำหรับเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 3 ถึง 12 ปี

         2. หลักสูตรการศึกษาระดับกลาง (IB Middle Years Programme, MYP – Grade 6 to 10) สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 11 ถึง 16 ปี

         3. หลักสูตรการศึกษาระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ(IB Diploma Programme, IBDP- Grade 11 to 12) สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 16 ถึง 19 ปี

โดยหลักสูตรที่เราได้ยินกันบ่อยๆ และจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ “IB Diploma” ซึ่งจะเทียบเท่ากับ A-Level Year 12-13 (ม.5-ม.6) ของระบบอังกฤษนั่นเอง โดยตัว IB Diploma นั้นจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตามในแต่ละช่วงชั้นของ IB จะมีการปรับพื้นฐานและออกแบบมาเพื่อผู้เรียนที่ย้ายมาจากหลักสูตรอื่นๆ ดังนั้นหากในช่วงประถมศึกษาหรือมัธยมต้นน้องๆเรียนระบบอื่นมา ก็สามารถเข้ามาเรียน IB Diploma ได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นกัน

หลักสูตร IB Diploma ต้องเรียนอะไรบ้าง?

         ที่นี้เรามาดูกันดีกว่าว่าหลักสูตรที่เขาว่ากันว่ามีความสากลและเป็นองค์รวม (Holistic Approach) มากที่สุดเนี่ย เขาเรียนอะไรกันบ้าง โดยในหลักสูตร IB Diploma Programme จะมีกลุ่มวิชาทั้งหมด 6 กลุ่ม น้องๆ จะเลือกเรียนประมาณ 6 ตัว และมีหลักสูตรบังคับอีก 3 ตัว

IB diploma
  1. English Literature เรียนภาษาและวรรณคดี เช่น Literature, Language & Literature
  2. Second Language เช่น French, Spanish, German
  3. Individuals and Societies วิเคราะห์และศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมผ่านวิชา เช่น Economics, Global Politics, Geography
  4. Experimental Sciences เช่น Physics, Chemistry, Biology
  5. Mathematics and Computer Science เช่น Maths, Further Maths
  6. Arts and Electives เช่น Dance, Film, Music, Visual Arts

         กลุ่มวิชาเหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็นวิชา Higher Level (HL) ซึ่งเน้นเป็นวิชาที่อยากเจาะลึก เเละเรียนแบบแอดวานซ์เพื่อต่อยอดในการเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคต และวิชา Standard Level (SL) ซึ่งเป็นวิชาที่เรียนเนื้อหาหลักตามปกติ โดยปกติแล้วน้องๆจะต้องเลือกเรียน 6 วิชา โดย 3-4 วิชาเลือกเป็น Higher Level (HL) และเลือกอีก 2-3 วิชา เป็น Standard Level (SL)

นอกจากนี้นักเรียนจะต้องผ่านการเรียนอีก 3 หลักสูตร(ซึ่งจะนำความรู้จากวิชาที่เลือกจากกลุ่ม 6 วิชาด้านบนมาประยุกต์ใช้) คือ

  1. Theory of Knowledge (ToK): เรียนด้านมนุษย์และสังคม รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆ เช่น ประวัติศาสตร์ ศิลปะ ภาษาและเหตุผล น้องๆต้องเข้าคอร์สเรียนไม่ต่ำกว่า 100 ชั่วโมง และเขียน Essay ไม่ต่ำกว่า 1,200-1,600 คำ
  2. Extended Essay (EE): เขียนเรียงความในหัวข้อที่ตนเองสนใจโดยจะมีความยาวไม่เกิน 4,000 คำ (ส่วนใหญ่นักเรียนจะทำ EE เกี่ยวกับหลักสูตรที่ตัวเองเรียน เช่นหากเรียนวิชาเกี่ยวกับ Computer Science นักเรียนอาจจะเลือกทำ Essay เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง Ai ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบทเรียนแต่นักเรียนอยากรู้ลึกขึ้น)
  3. Creativity, Action, Service (CAS): ทำกิจกรรมนอกโรงเรียนโดยในแต่ละวิชาต้องใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมง

วัดคะแนนกันยังไง?

         ในแต่ละรายวิชานั้นจะมีการให้คะแนนตั้งแต่ 1 (ต่ำสุด) – 7 (สูงสุด) และคะแนนพิเศษอีก 3 คะแนนจากหลักสูตร Core (Extended Essay & Theory of Knowledge Essay) ทำให้คะแนนรวมทั้งหมดนั้นคือ 45 คะแนน หากจะสอบผ่าน IB Diploma น้องๆจะต้องได้คะแนนรวม 24 คะเเนนขึ้นไป ถ้าคะแนนไม่ถึงก็จะได้เป็น IB Certificate ไป ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่อาจไม่รับในการใช้ยื่นสมัคร

การสอบ IB จัดในช่วงไหน?

         การจัดสอบ IB จะมีขึ้นทั่วโลกปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม (สมัครสอบตุลาคม-พฤศจิกายน) ส่วนครั้งที่สองในเดือนพฤศจิกายน (สมัครสอบกันยายน-สิงหาคม)

แต่ละวิชาจะมี 2-3 Paper หากสอบไม่ผ่านจะสามารถสอบได้ใหม่อีกไม่เกิน 3 ครั้ง และนักเรียนที่มีสิทธิสอบ IB คือนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนแบบ IB เท่านั้น

รอบสอบ IB - ignite A Star

การเทียบวุฒิม.6 ด้วย IB ในประเทศไทย

          ผู้สมัครจะต้องได้รับประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียน (High School Diploma) และ/หรือ
ได้รับ IB Diploma และ/หรือ IB DP Course Results ดังนี้

  • 1) ได้รับ IB Diploma คือมีคะแนนรวมในหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 24 คะแนน พร้อมกับผ่านการประเมิน Extended Essay (EE), Theory of Knowledge (TOK) และ Creativity, Action & Service (CAS) ตามเกณฑ์ของ International Baccalaureate Organisation (IBO) หรือ
  • 2) ได้รับ IB Diploma Course Results (IBCR) อย่างน้อย 5 วิชา โดยแต่ละวิชาจะต้องไม่ซ้ากัน และได้ผลการ เรียนในแต่ละวิชา ไม่น้อยกว่าเกรด 2 (เทียบเท่ากับ 60 เปอร์เซนต์ หรือ GPA รายวิชา 2 ขึ้นไป)
IB diploma in Thailand

         ซึ่งข้อดีของตัว IB ก็คือ มหาวิทยาลัยอาจยกเว้นวิชาเรียนบางตัวในปี 1 ให้น้องๆ หากผ่านวิชานั้นมาแล้วใน IB Diploma และได้คะแนนมากกว่า 4-5 เช่น สมมติว่าน้องเรียน Higher Level Computer Science มาแล้วและได้คะแนนดี บางมหาวิทยาลัยอาจใช้ IB ตัวนี้เก็บเป็นเครดิต ทำให้น้องๆสามารถลดจำนวนวิชาเรียนไปได้บ้าง

         เป็นยังไงกันบ้างกับหลักสูตร IB พี่ๆ ignite A* หวังว่าน้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่จะได้ความรู้กลับไปประกอบการตัดสินใจวางแผนการเรียน สำหรับปัจจุบันโรงเรียนในประเทศไทยก็เริ่มเปิดหลักสูตร IB กันบ้างแล้ว และบางแห่งก็ใช้หลักสูตรนี้ตั้งแต่ระดับ Primary จนถึง Diploma เช่น โรงเรียนนานาชาติ NIST, KIS, Concordian หรือ Prem Tinsulanonda

เรียน 1on1 IB ที่ ignite A*

Study 1 on 1 at Ignite a star for preparing for IGCSE and A-level test.

         หากน้องๆ อยากรู้เรื่องระบบการศึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้โดยตรง พี่ๆทีม ignite A* พร้อมตอบทุกข้อสงสัย นอกจากนี้เรายังมีทีมคุณครูที่เชี่ยวชาญพร้อมประสบการณ์สอนน้องๆ หลักสูตรอินเตอร์แบบ 1on1 ไม่ว่าจะเป็น IB, IGCSE, A-Level หรือ AP คุณครูของเราจะลงลึกและปรับเนื้อหารายบุคคลพร้อมเทคนิคการสอนและ mark scheme เพื่อให้น้องๆได้คะแนนตามเป้าหมาย หากน้องๆต้องการแนะแนวทางการศึกษาหรือมีข้อสอบถามสามารถติดต่อได้ที่ Line: @igniteastar หรือคลิก https://bit.ly/3hhgXoD

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *