บอกครบทุกคำตอบ หลักสูตร IB คืออะไร? ดีจริงไหม?
เจาะลึก International Baccalaureate ระบบการศึกษาแบบข้ามประเทศ
ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่าเทรนด์การเรียนหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยกำลังมาแรง เนื่องจากรูปแบบการศึกษาที่สามารถปรับใช้ได้อย่างสากลนั้นเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ น้องๆ บางคนอาจจะเคยเสาะหาข้อมูลและพอทราบกันบ้างแล้วว่าในประเทศไทยนั้นมีหลักสูตรนานาชาติหลายรูปแบบ ไม่ว่าเป็นจะระบบอังกฤษ อเมริกัน หรือสิงคโปร์ แต่วันนี้พี่ๆ Ignite A* จะพาน้องๆ มาดูอีกหลักสูตรหนึ่งที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน และขึ้นชื่อได้ว่าเป็นรูปแบบการศึกษาข้ามประเทศที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว นั่นก็คือระบบ “IB” หรือ “International Baccalaureate” พร้อมตอบทุกคำถามว่า หลักสูตร IB คืออะไร? ดีจริงไหม? มาเริ่มกันเลย..
ระบบ IB คืออะไร?
หลักสูตร IB Programme นั้นย่อมาจาก International Baccalaureate คือ ระบบการศึกษาที่มีการใช้แพร่หลายทั่วโลกถึง 150 ประเทศ โดยหลักสูตรนี้ถูกจัดตั้งขึ้นมาให้เป็นระบบการศึกษารูปแบบใหม่ที่มีความสากล ได้รับการยอมรับจากทุกมุมโลก และไม่อิงตามรูปแบบการเรียนของประเทศใดเป็นพิเศษ ซึ่งก็มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของนักเรียนที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนสถาบันหรือประเทศเรียนบ่อยครั้งอีกด้วย อย่างถ้าเป็นระบบอื่นๆที่เป็นที่นิยมก็มักจะมีแม่พิมพ์มาจากประเทศหลัก เช่น หลักสูตร IGCSE/A-Level ก็จะมีการปรับต้นแบบจากการศึกษาของสหราชอาณาจักร หรือ หลักสูตร AP (Advanced Placement) ก็จะอิงจากระบบอเมริกัน อย่างไรก็ตาม IB นั้นจะเน้นความเป็น Global และหลากหลาย เช่น ในการเรียนก็อาจจะเลือกใช้ Case Study จากหลายๆ มุมโลก นอกจากนี้ตัว IB ก็ยังนำคะแนนไปยื่นเข้าสอบหรือสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศอีกด้วย
IB Program มีกี่ระดับชั้น?
หลักสูตร IB จะมีทั้งหมด 3 ระดับชั้นคือ
1. หลักสูตรการศึกษาระดับต้น (IB Primary Years Programme, PYP – Grade 1 to 5) สำหรับเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 3 ถึง 12 ปี
2. หลักสูตรการศึกษาระดับกลาง (IB Middle Years Programme, MYP – Grade 6 to 10) สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 11 ถึง 16 ปี
3. หลักสูตรการศึกษาระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ(IB Diploma Programme, IBDP- Grade 11 to 12) สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 16 ถึง 19 ปี
โดยหลักสูตรที่เราได้ยินกันบ่อยๆ และจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ “IB Diploma” ซึ่งจะเทียบเท่ากับ A-Level Year 12-13 (ม.5-ม.6) ของระบบอังกฤษนั่นเอง โดยตัว IB Diploma นั้นจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตามในแต่ละช่วงชั้นของ IB จะมีการปรับพื้นฐานและออกแบบมาเพื่อผู้เรียนที่ย้ายมาจากหลักสูตรอื่นๆ ดังนั้นหากในช่วงประถมศึกษาหรือมัธยมต้นน้องๆเรียนระบบอื่นมา ก็สามารถเข้ามาเรียน IB Diploma ได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นกัน
หลักสูตร IB Diploma ต้องเรียนอะไรบ้าง?
ที่นี้เรามาดูกันดีกว่าว่าหลักสูตรที่เขาว่ากันว่ามีความสากลและเป็นองค์รวม (Holistic Approach) มากที่สุดเนี่ย เขาเรียนอะไรกันบ้าง โดยในหลักสูตร IB Diploma Programme จะมีกลุ่มวิชาทั้งหมด 6 กลุ่ม น้องๆ จะเลือกเรียนประมาณ 6 ตัว และมีหลักสูตรบังคับอีก 3 ตัว
- English Literature เรียนภาษาและวรรณคดี เช่น Literature, Language & Literature
- Second Language เช่น French, Spanish, German
- Individuals and Societies วิเคราะห์และศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคมผ่านวิชา เช่น Economics, Global Politics, Geography
- Experimental Sciences เช่น Physics, Chemistry, Biology
- Mathematics and Computer Science เช่น Maths, Further Maths
- Arts and Electives เช่น Dance, Film, Music, Visual Arts
กลุ่มวิชาเหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็นวิชา Higher Level (HL) ซึ่งเน้นเป็นวิชาที่อยากเจาะลึก เเละเรียนแบบแอดวานซ์เพื่อต่อยอดในการเข้ามหาวิทยาลัยในอนาคต และวิชา Standard Level (SL) ซึ่งเป็นวิชาที่เรียนเนื้อหาหลักตามปกติ โดยปกติแล้วน้องๆจะต้องเลือกเรียน 6 วิชา โดย 3-4 วิชาเลือกเป็น Higher Level (HL) และเลือกอีก 2-3 วิชา เป็น Standard Level (SL)
นอกจากนี้นักเรียนจะต้องผ่านการเรียนอีก 3 หลักสูตร(ซึ่งจะนำความรู้จากวิชาที่เลือกจากกลุ่ม 6 วิชาด้านบนมาประยุกต์ใช้) คือ
- Theory of Knowledge (ToK): เรียนด้านมนุษย์และสังคม รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆ เช่น ประวัติศาสตร์ ศิลปะ ภาษาและเหตุผล น้องๆต้องเข้าคอร์สเรียนไม่ต่ำกว่า 100 ชั่วโมง และเขียน Essay ไม่ต่ำกว่า 1,200-1,600 คำ
- Extended Essay (EE): เขียนเรียงความในหัวข้อที่ตนเองสนใจโดยจะมีความยาวไม่เกิน 4,000 คำ (ส่วนใหญ่นักเรียนจะทำ EE เกี่ยวกับหลักสูตรที่ตัวเองเรียน เช่นหากเรียนวิชาเกี่ยวกับ Computer Science นักเรียนอาจจะเลือกทำ Essay เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง Ai ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบทเรียนแต่นักเรียนอยากรู้ลึกขึ้น)
- Creativity, Action, Service (CAS): ทำกิจกรรมนอกโรงเรียนโดยในแต่ละวิชาต้องใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมง
วัดคะแนนกันยังไง?
ในแต่ละรายวิชานั้นจะมีการให้คะแนนตั้งแต่ 1 (ต่ำสุด) – 7 (สูงสุด) และคะแนนพิเศษอีก 3 คะแนนจากหลักสูตร Core (Extended Essay & Theory of Knowledge Essay) ทำให้คะแนนรวมทั้งหมดนั้นคือ 45 คะแนน หากจะสอบผ่าน IB Diploma น้องๆจะต้องได้คะแนนรวม 24 คะเเนนขึ้นไป ถ้าคะแนนไม่ถึงก็จะได้เป็น IB Certificate ไป ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่อาจไม่รับในการใช้ยื่นสมัคร
การสอบ IB จัดในช่วงไหน?
การจัดสอบ IB จะมีขึ้นทั่วโลกปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม (สมัครสอบตุลาคม-พฤศจิกายน) ส่วนครั้งที่สองในเดือนพฤศจิกายน (สมัครสอบกันยายน-สิงหาคม)
แต่ละวิชาจะมี 2-3 Paper หากสอบไม่ผ่านจะสามารถสอบได้ใหม่อีกไม่เกิน 3 ครั้ง และนักเรียนที่มีสิทธิสอบ IB คือนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนแบบ IB เท่านั้น
การเทียบวุฒิม.6 ด้วย IB ในประเทศไทย
ผู้สมัครจะต้องได้รับประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียน (High School Diploma) และ/หรือ
ได้รับ IB Diploma และ/หรือ IB DP Course Results ดังนี้
- 1) ได้รับ IB Diploma คือมีคะแนนรวมในหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 24 คะแนน พร้อมกับผ่านการประเมิน Extended Essay (EE), Theory of Knowledge (TOK) และ Creativity, Action & Service (CAS) ตามเกณฑ์ของ International Baccalaureate Organisation (IBO) หรือ
- 2) ได้รับ IB Diploma Course Results (IBCR) อย่างน้อย 5 วิชา โดยแต่ละวิชาจะต้องไม่ซ้ากัน และได้ผลการ เรียนในแต่ละวิชา ไม่น้อยกว่าเกรด 2 (เทียบเท่ากับ 60 เปอร์เซนต์ หรือ GPA รายวิชา 2 ขึ้นไป)
ซึ่งข้อดีของตัว IB ก็คือ มหาวิทยาลัยอาจยกเว้นวิชาเรียนบางตัวในปี 1 ให้น้องๆ หากผ่านวิชานั้นมาแล้วใน IB Diploma และได้คะแนนมากกว่า 4-5 เช่น สมมติว่าน้องเรียน Higher Level Computer Science มาแล้วและได้คะแนนดี บางมหาวิทยาลัยอาจใช้ IB ตัวนี้เก็บเป็นเครดิต ทำให้น้องๆสามารถลดจำนวนวิชาเรียนไปได้บ้าง
เป็นยังไงกันบ้างกับหลักสูตร IB พี่ๆ ignite A* หวังว่าน้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่จะได้ความรู้กลับไปประกอบการตัดสินใจวางแผนการเรียน สำหรับปัจจุบันโรงเรียนในประเทศไทยก็เริ่มเปิดหลักสูตร IB กันบ้างแล้ว และบางแห่งก็ใช้หลักสูตรนี้ตั้งแต่ระดับ Primary จนถึง Diploma เช่น โรงเรียนนานาชาติ NIST, KIS, Concordian หรือ Prem Tinsulanonda
เรียน 1on1 IB ที่ ignite A*
หากน้องๆ อยากรู้เรื่องระบบการศึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้โดยตรง พี่ๆทีม ignite A* พร้อมตอบทุกข้อสงสัย นอกจากนี้เรายังมีทีมคุณครูที่เชี่ยวชาญพร้อมประสบการณ์สอนน้องๆ หลักสูตรอินเตอร์แบบ 1on1 ไม่ว่าจะเป็น IB, IGCSE, A-Level หรือ AP คุณครูของเราจะลงลึกและปรับเนื้อหารายบุคคลพร้อมเทคนิคการสอนและ mark scheme เพื่อให้น้องๆได้คะแนนตามเป้าหมาย หากน้องๆต้องการแนะแนวทางการศึกษาหรือมีข้อสอบถามสามารถติดต่อได้ที่ Line: @igniteastar หรือคลิก https://bit.ly/3hhgXoD