ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนนี้การศึกษาหลักสูตรอินเตอร์กำลังมาแรงมากเลยทีเดียว ผู้ปกครองหรือน้องๆหลายคน ก็กำลังศึกษาเพิ่มเติมว่าแต่ละหลักสูตรนั้นเป็นอย่างไร วันนี้พี่ๆ ignite A* เลยจะพาทุกคนมารู้จักกับหลักสูตร IGCSE A Level คืออะไร? ควรเรียนหรือไม่? ซึ่งถือว่าเป็นระบบยอดฮิตของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยเลย
หลักสูตร IGCSE A Level คืออะไร?
หลักสูตร IGCSE (International General Certificate of Secondary Educational) คือ หลักสูตรการศึกษาระบบอังกฤษ สำหรับนักเรียนอายุ 14-16 ปี เป็นช่วงการศึกษาขั้นมัธยม Year 10 – 11 เทียบเท่ากับ ม.3 – ม.4 ของบ้านเรานั่นเอง หลังจากที่น้องๆ เรียน IGCSE ก็จะได้วุฒิศึกษาต่อในช่วงม.ปลาย โดยหากเรียนต่อที่ระบบอังกฤษตามเดิมก็จะเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า A Level หรือชื่อเต็มว่า The General Certificate of Education Advanced Level Certificate ในระดับชั้น Year 12 – 13 (Sixth Form) ซึ่งเทียบเท่ากับ ม.5 – ม.6 หรือถ้าน้องๆ ไม่ต้องการเรียนต่อในระบบอังกฤษแล้ว ช่วงมัธยมปลายก็สามารถเปลี่ยนไปเรียนระบบ IB หรือระบบอื่นๆ ได้เช่นกัน
IGCSE และ A Level ในแต่ละช่วงชั้นต้องเรียนอะไรบ้าง?
ที่นี้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่คงสงสัยกันแน่ๆ ว่าในแต่ละช่วงเด็กๆจะเรียนอะไรกันบ้าง พี่ ignite A* จะขอแบ่งย่อยออกเป็น 2 ส่วนตามช่วงชั้น เรามาเริ่มกันที่ หลักสูตร IGCSE กันก่อนเลย
การเรียนในหลักสูตร IGCSE
หลักสูตร IGCSE เป็นการเรียนการสอนที่บูรณาการระหว่างความรู้ในแต่ละรายวิชาไปพร้อมกับการฝึกปฎิบัติ โดยน้องๆสามารถเลือกเรียนและทำข้อสอบวัดความรู้ได้ทั้งเนื้อหาขั้นพื้นฐาน (Core) หรือเนื้อหาขั้นสูง (Extended)
- เนื้อหาขั้นพื้นฐาน (Core) ครอบคลุมเนื้อหาหลักๆของรายวิชานั้น ได้เกรดเป็น C-G
- เนื้อหาขั้นสูง (Extended) ครอบคลุมทั้งเนื้อหาหลักเเละเนื้อหาเจาะลึก ได้เกรดเป็น A*-C
รายวิชาในหลักสูตร IGCSE
โดยหลักสูตร IGCSE มีรายวิชาประมาณ 77 วิชาให้เลือกสอบจาก 5 กลุ่มวิชาอันประกอบไปด้วย
- กลุ่มวิชาภาษา (Language) เช่น Chinese, French, Thai, Dutch, Spanish
- กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science) เช่น Economics, Geography, History
- กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science) เช่น Biology, Chemistry, Physics, Environmental Management
- กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics) เช่น Maths, Maths Additional
- กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational) เช่น Art & Design, Business Studies, Computer Science, Drama, Music
โดยทั่วไปนักเรียนจะเลือกเรียนประมาณ 9-11 วิชาจากกลุ่มวิชาที่ครอบคลุม แต่หากโรงเรียนเล็งเห็นว่าน้องคนไหนยังต้องอัดพื้นฐานการเรียนมากเป็นพิเศษอาจให้เลือกลงแค่ 5-7 วิชา และโรงเรียนบางแห่งก็อาจมีวิชาบังคับสำหรับนักเรียนไทยด้วย เช่น Math, English, Science และ Thai Language
การเรียนในหลักสูตร A Level
การเรียน A Level นั้นจะใช้ระยะเวลา 2 ปี โดยในช่วงปีเเรกจะเรียกว่า AS Level และในปีที่ 2 จะเรียกว่า A2 Level
- AS Level จะเป็นช่วงปีแรก คือ Year 12 (เทียบเท่า ม.5)
AS Level ย่อมาจาก Advanced Subsidiary Level เป็นหลักสูตรที่ใช้ระยะเวลาเรียน 1 ปี สามารถใช้สอบเพื่อขอวุฒิ AS ได้ และนำวุฒิไปใช้ศึกษาต่อในระดับ Polytechnic (ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยปกติ หรือมหาวิทยาลัยท็อปไม่รับตัวนี้ น้องๆต้องเรียนให้จบ Year 13) ได้คะแนนเป็นเกรด A-E - A2 Level จะเป็นการเรียนในช่วง Year 13
ได้คะแนนเป็นเกรด A*-E เมื่อเรียนจบทั้ง AS และ A2 Level แล้วถึงจะถือว่าเรียน A-Level ครบ
A Level มีทั้งหมดกี่วิชา?
A Level มีทั้งหมดประมาณ 66 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มวิชา รูปแบบเดียวกับ IGCSE แต่จะมีวิชาที่เพิ่มขึ้นมา เนื้อหาลงลึก หรือเป็นวิชาที่พัฒนาจากความรู้พื้นฐานใน Year 10-11 เช่น:
- กลุ่มวิชาภาษา (Language) เช่น French, Spanish, Chinese
- กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science) เช่น Economics, Law, Sociology, Geography
- กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science) เช่น Biology, Chemistry, Physics, Environmental Managemant (AS Only)
- กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics) เช่น Maths, Maths Further
- กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational) เช่น Accounting, Business, Art & Design, Digital Media & Design, Drama
โดยส่วนใหญ่แล้วน้องๆ จะเลือกเรียนกันเพียง 3-4 วิชาที่ตรงกับ Requirement คณะที่ต้องการเข้าในอนาคต เนื่องจากเนื้อหาแต่ละวิชาของ A-Level นั้นจะค่อนข้างลงลึกและถือว่ายากเลยทีเดียว
IGCSE และ A Level มีบอร์ดในการสอบกี่ที่ แตกต่างกันไหม?
การสอบในประเทศไทยนั้นจะมีการจัดสอบโดย 2 บอร์ดใหญ่ๆ คือ Cambridge CIE และ Pearson Edexcel (ปัจจุบันมีบอร์ด AQA เข้ามาเพิ่มเติมแต่ยังไม่นิยมเท่าไหร่นัก) โดยทั้ง 2 บอร์ดนั้น ก็จะมีรูปแบบการออกข้อสอบและวัดคะแนนที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนน้องๆเลือกโรงเรียนต้องศึกษาตรงนี้ให้ดีก่อน
ความแตกต่างระหว่างบอร์ด
ช่วงเวลาสอบ
สำหรับตารางสอบจะมีการสอบปีละ 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน ส่วนอีกช่วงคือปลายปีในเดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน
ใน 1 ปี มีรอบสอบทั้งหมด 2 รอบ ดังนี้
เทียบวุฒิ ม.6 ด้วย IGCSE/A Level ยังไง?
เมื่อก่อนหากน้องๆ เรียน IGCSE ผ่านครบ 5 วิชา ก็สามารถขอยื่นเทียบวุฒิ ม.6 ได้ แต่ปัจจุบันน้องๆ จะต้องใช้ IGCSE 5 ตัว (คะแนนแต่ละรายวิชา A*-C) ยื่นคู่กับผลสอบเพิ่มเติมดังนี้:
1) AS Level จำนวนอย่างน้อย 3 วิชา เกรดไม่ต่ำกว่า C หรือ
2) A-Level จำนวนอย่างน้อย 3 วิชา เกรด A*-E
โดย AS และ A-Level ในข้อ 1-2 นำมาใช้ยื่นเทียบวุฒิรวมกันได้ จำนวนไม่ต่ำกว่า 3 วิชา
Requirement ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร?
สำหรับน้องๆ ที่อยากศึกษาต่อ U.Top ที่ต่างประเทศ สหราชอาณาจักรก็เป็นประเทศหนึ่งที่เด็กๆ หลักสูตร IGCSE & A Level ยื่นเข้า เนื่องจากเป็นการศึกษาที่สอดคล้องกันอยู่แล้ว โดยส่วนมากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของอังกฤษมักจะ require การยื่น A Level 3 วิชา ซึ่งเป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขานั้นๆ คู่กับวิชาพื้นฐานใน IGCSE เช่น Top 10 UK University อย่าง UCL (University College London) ต้องยื่น A-Level 3 ตัว เกรด A*A*A – ABB และต้องยื่นคู่กับ IGCSE English Language และ Maths เพื่อกรองพื้นฐานการเรียนของน้องๆด้วย
หากเป็นมหาวิทยาลัยใน USA บ้างที่อาจจะไม่ได้ require ชัดเจนว่าน้องต้องได้เกรด A Level เท่าไหร่ขึ้นไป และใช้การยื่น Essay & Portfolio ควบคู่ด้วย แต่ก็มีค่าเฉลี่ยให้เห็นกันใน U. Top บางแห่งว่า นักเรียนที่ได้รับการตอบรับส่วนใหญ่ก็มีคะแนนที่สูงผันแปรกันไป เช่น มหาวิทยาลัยในฝันของใครหลายๆคนอย่าง MIT (Massachusetts Institute of Technology) นักเรียนส่วนใหญ่ก็จะมี A Level ระดับ A*-A ในแต่ละรายวิชาสายวิทย์
เรียน IGCSE และ A Level ที่ Ignite A*
จากข้างต้นจะเห็นได้ชัดเลยว่า เกรดของระดับ IGCSE และ A Level นั้นมีผลมากๆ ต่อการเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย เเละเป็นตัวกำหนดเลยว่าเราจะสามารถยื่นเข้าที่ไหนได้บ้าง ดังนั้นน้องๆต้องวางแผนการเรียนให้ดี ทั้งแพลนรายวิชาที่สอดคล้องกับสาขาที่ต้องการเข้า และการเตรียมตัวก่อนสอบ
เรียน IGCSE และ A-Level แบบ Mini Class
เรียน IGCSE และ A Level แบบ One on One
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม พี่ๆ ignite A* มีทีมคุณครูและ Counsellor ที่เชี่ยวชาญด้านการสอนหลักสูตรอินเตอร์ทั้ง IGCSE, A Level, IB และ AP รวมถึงทีมให้คำปรึกษาเบื้องหลังการผลักดันน้องๆ ศึกษาต่อตามเป้าหมายของน้องๆ สามารถติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @igniteastar หรือคลิก https://bit.ly/3hhgXoD