27 เม.ย.
รีวิวการเตรียมตัวสอบเข้า PSCM-UCL ปี 65 รอบ Portfolio
By พี่มิลาน Shrewsbury International School
(นักเรียนใน Medical consult program )
สวัสดีคุณพ่อ คุณแม่ และน้องๆนักเรียนทุกคนครับ วันนี้พี่แอดมินได้พา “น้องมิลาน” รุ่นพี่ ignite จากโรงเรียน Shrewsbury international school ที่ตอนนี้เป็นรุ่นพี่คณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (USCM-UCL) มารีวิวการเตรียมตัวสอบเข้าคณะแพทย์ รอบ Portfolio แบบฉบับนักเรียนนานาชาติ ซึ่งวันนี้ น้องมิลานจะมาเล่าวิธีการเตรียมตัว และเคล็ดลับต่างๆ ที่ควรนำไปปรับใช้ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ
Q: เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ ว่าทำไมถึงอยากเรียนหมอ ?
ในวัยเด็ก มิลาน ต้องเข้าโรงพยาบาลค่อนข้างบ่อย เลยรู้สึกกลัวโรงพยาบาลมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการรักษา และบรรยากาศในโรงพยาบาล แต่ตอนนั้น ก็มีคุณหมอและพี่ๆ พยาบาลหลายท่านที่คอยอยู่ข้างๆ และดูแลอยู่ตลอดเลยค่ะ ทำให้รู้สึกกลัวน้อยลงและผ่อนคลายขึ้น ประสบการณ์วัยเด็กนี้ ทำให้มิลานรู้สึกสนใจในการเป็นแพทย์ เพื่อช่วยเหลือคนที่เจอปัญหาเดียวกับมิลานค่ะ จึงได้ลองศึกษาหลักสูตรของคณะแพทยศาสตร์ของแต่ละมหาวิทยาลัย และเข้าร่วมโครงการต่างๆ ทำให้มิลานได้เห็นภาพรวมเกี่ยวกับการเป็นแพทย์มากขึ้น และจุดนี้ก็ทำให้รู้สึกมั่นใจว่าอยากจะเป็นแพทย์จริงๆ ค่ะ
Q: น้องมีการเตรียมตัวสอบยังไง และใช้คะแนนอะไรในการยื่นบ้างครับ ?
เนื่องจากมิลานเรียน Shrewsbury International School ซึ่งเป็นหลักสูตรนานาชาติระบบอังกฤษ มิลานก็ได้ใช้แปลงคะแนน A-level Biology, Chemistry, Mathematics เป็น GPA และใช้ยื่นเทียบวุฒิม.ปลายค่ะ ในส่วนคะแนนความถนัดทางภาษาอังกฤษ มิลานก็ใช้ผลการสอบ IELTS และ BMAT ค่ะ ในส่วนของคะแนน IELTS มิลานก็อ่านหนังสือ และฝึกทำข้อสอบเองค่ะ แต่ในส่วนของ BMAT ก็มีติวกับพี่ๆ Ignite ค่า แต่จริงๆแล้ว ด้วยความที่มิลานต้องสอบ A-Level Biology และ Chemistry มาแล้ว เลยสามารถนำความรู้มาปรับใช้ใน BMAT Part 2 ที่เป็น Science ได้ค่ะ ก็จะมีแค่ physics ที่ไปติวเพิ่มค่า
Q: น้องมิลาน มีเคล็ดลับอะไรในการทำ Portfolio เข้าคณะแพทยศาสตร์ครับ ?
มิลานว่า การ Reflect ตัวเองผ่าน Portfolio เป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะจะทำให้ Portfolio ของเราน่าสนใจและแสดงถึงตัวตนของเรา ซึ่งคุณสมบัติที่แต่ละมหาวิทยาลัยอยากให้เรา Reflect ออกมา ก็ไม่เหมือนกันด้วยนะคะ ดังนั้น ต้องศึกษาก่อนว่า อะไรที่สถาบันนั้นๆให้ความสำคัญ และอยากจะเห็นใน portfolio ของเราค่ะ หลังจากนั้น เราค่อยแพลนว่าจะใส่กิจกรรมและสิ่งที่เราได้เรียนรู้ลงไปใน Portfolio ค่ะ
Q: น้องมิลานมีการเตรียม Portfolio เข้า PSCM ยังไงบ้างครับ ?
สำหรับการยื่น Portfolio ที่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มิลานเริ่มวางแผน และใช้เวลาเตรียม Portfolio รวบรวมผลงานตั้งแต่ ม.4 เลยค่ะ ทั้งนี้ สิ่งที่ทางสถาบัน Focus จะเป็นเรื่องการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆที่นักเรียนได้เข้าร่วม เช่น เราได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรมนี้ และ จะนำไปปรับใช้เชิงวิชาชีพอย่างไร และ ทางสถาบันก็ดู Skills ในการทำ research รูปแบบต่างๆอีกด้วยค่ะ
Q: น้องมิลาน ยกตัวอย่าง Activities สำหรับใส่ Portfolio ให้หน่อยได้ไหมครับ ?
มิลานจึงได้ยกกิจกรรมที่เน้นการทำ Research ต่างๆ เช่น Laboratory work on Fluorescent Protein Technology เป็นโครงการที่ทำให้เราได้เรียนรู้ Medical term ผ่าน Theory และ Practical sessions และเพื่อเน้นด้านประสบการณ์การจริง มิลานก็ได้นำเสนอ Imperial Global Summer School of Medicine and Life Sciences ซึ่งเป็นโครงการเน้นเรื่อง Clinical Skills ต่างๆ ที่ต้องใช้ในโรงพยาบาล ซึ่งในส่วนนี้ทำให้มิลานได้เรียนรู้ว่า การจะเป็นแพทย์นั้นต้องมี Skills อะไรบ้าง และ จะพัฒนา Skills นั้นๆ ได้อย่างไร นอกจากนี้ มิลานก็ได้เรียนรู้อีกว่า การเรียนรู้ระบบและการบริหารงานในโรงพยาบาล ก็เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่แพทย์ต้องมี ซึ่งองค์ความรู้นี้จะช่วยพัฒนาระบบปฏิบัติงานแต่ละส่วนในโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการให้บริการคนไข้ค่ะ
รวมไปถึง มิลานก็ได้นำเสนอ Medical Observership ของแต่ละโครงการที่มิลานได้เข้าร่วมด้วย และ Reflect ว่า มิลานได้เรียนรู้ถึงการปฏิบัติการจริงของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเตรียมความพร้อม การดำเนินการ และการผ่าตัด ซึ่งมิลานได้เรียนรู้ถึงบทบาทของเทคโนโลยีที่ถูกนำมาปรับใช้ในเทคนิคการแพทย์ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นต่อผู้ป่วยค่ะ
Q: แล้วรอบสัมภาษณ์น้องมิลานมีการเตรียมตัวยังไงบ้างครับ ?
ส่วนตัวแล้ว มิลาน คิดว่า รอบสัมภาษณ์นั้นค่อนข้างตรงกับที่มิลานเตรียมตัวมาค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้ว มิลานมีการสอบถามรุ่นพี่ในคณะเกี่ยวกับ Process และ Set คำถามของปีที่แล้ว ทำให้มิลานพอรู้แนวคำถามบ้าง หลังจากนั้น มิลานก็ได้มีการเตรียมตัว ซ้อมบทสัมภาษณ์ พร้อมทั้งเสริมความรู้ด้วยข้อมูลจาก Medical Journal และการซื้อหนังสือติวสอบสัมภาษณ์ค่ะ ทั้งนี้ การหาข้อมูลเพิ่มเติมช่วยให้เรามีความรู้รอบตัวมากขึ้น และยังช่วยในการตอบคำถามที่ Update มากๆอีกด้วยค่ะ
Q: มีคำถามแนวไหนบ้างครับ ?
จริงๆ การสัมภาษณ์จะแบ่งเป็นห้องย่อยๆนะคะ ซึ่งแต่ละห้องก็มี Objective แตกต่างกันออกไปตามที่ทางสถาบันอยากจะเรียนรู้เราค่ะ ประกอบด้วย องค์ความรู้เกี่ยวกับการเป็นแพทย์, การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า, Medical Ethics, โครงการที่ทางสถาบันกำลังทำ รวมไปถึง Ideas การทำ Research ค่ะ
Q: Skills ไหนที่เราควรเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์บ้างครับ ?
การตอบคำถามแบบ Medical logic เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะเราต้องตอบให้เป็นขั้นตอน และมีเหตุผล รวมไปถึงการตอบคำถามให้กระชับ และครบทุกจุด เพื่อให้คณะกรรมการไม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำถามนั้นๆ ค่ะ
จริงๆ แล้วการตอบคำถามไม่ครบ ไม่เคลียร์ หรือไม่สามารถตอบได้ ก็อาจจะทำให้เราเสียคะแนนในการสัมภาษณ์ได้เช่นกันค่ะ ดังนั้นการอธิบายคำตอบให้ลึก และ เป็นระบบที่สุด เป็นสิ่งที่มิลานว่าควรให้ความสำคัญค่ะ
Q: ท้ายที่สุด อยากแชร์ความประทับใจต่อ Medical consult program ยังไงบ้างครับ ?
มิลานอยากขอบคุณพี่ๆ Ignite A* ทุกคน ที่ช่วยแนะนำ และดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสอบ BMAT, การทำ Portfolio และ การสัมภาษณ์ รวมไปถึง การเก็บพวกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น การเตรียมความพร้อมสำหรับสอบ BMAT ได้ทำการ mock test กับทาง ignite แถมยังได้รับ feedback กลับมาพัฒนาตัวเองทำให้คะแนนผ่านเกณฑ์ยื่นแพทย์ค่ะ และยังช่วยทำให้หนูรู้จักจุดเด่นของตัวเองเพื่อนำมาใช้ในการทำ portfolio ซึ่งมันทำให้มิลานรู้สึกมั่นใจในการสมัครสอบครั้งนี้มากๆ และประทับใจการดูแลของพี่ๆทุกคนค่ะ ขอบคุณค่ะ
ทั้งนี้ ทางพี่ Educational consultant เชื่อว่า คุณพ่อ-คุณแม่ จะต้องเลือกสิ่งที่ดี และเหมาะสมกับลูกที่สุดอย่างแน่นอนค่ะ หากคุณพ่อ-คุณแม่ ต้องการที่ปรึกษาด้านการเตรียมตัวสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมทำ Portfolio, การเขียน SOP, การสอบสัมภาษณ์ สามารถเข้ามารับบริการกับพี่ๆ Strategic Advisor ที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของน้องหมอกว่า กว่า 300 คน สามารถติดต่อที่ Line: @igniteastar หรือคลิก https://bit.ly/3hhgXoD และโทร 061-265-0047 ได้เลยครับผม
