สายหมออินเตอร์ต้องรู้! หลักสูตรดี ๆ ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศ ก็เรียนได้ในไทย!
สวัสดีน้อง ๆ IGNITER ทุกคน! วันนี้พี่จะพามา “เจาะลึก” เส้นทางสายแพทย์อินเตอร์ในไทย ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับน้อง ๆ ที่มีความฝันอยากเป็นหมอในระบบนานาชาติ แต่ก็ยังอยากเรียนและใช้ชีวิตในประเทศไทย หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า…หลักสูตรแพทย์อินเตอร์ในไทย มีแค่ 2 สถาบัน เท่านั้น ที่เปิดสอนหลักสูตรนี้อย่างเป็นทางการ!
หลักสูตรแพทย์อินเตอร์ในไทย มีที่ไหนบ้าง?

1. แพทย์อินเตอร์ – สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (MED KMITL)
ชื่อหลักสูตรเต็ม : Doctor of Medicine International Program, KMITL
ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน : ภาษาอังกฤษ 100%
จุดเด่นของหลักสูตร :
- มีความร่วมมือกับ University of Pittsburgh (USA)
- ระบบ Problem-Based Learning (PBL) เน้นวิเคราะห์ปัญหาทางคลินิกจริง
- มีโอกาสฝึกงานและแลกเปลี่ยนในต่างประเทศ
Facilities : อาคารเรียนทันสมัย / ห้อง Simulation & Clinical Skill Lab / ห้องเรียนขนาดเล็กแบบกลุ่มย่อย

2. แพทย์อินเตอร์ – วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (MED CICM)
ชื่อหลักสูตรเต็ม : Doctor of Medicine Program, CICM
ภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอน : ภาษาอังกฤษ 100%
จุดเด่นของหลักสูตร :
- หลักสูตรแพทย์นานาชาติแรกในไทย
- มีเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น สหรัฐฯ และยุโรป
- เปิดรับทั้งนักเรียนไทยและต่างชาติ
Facilities : ห้อง Anatomy Lab, Simulation Lab / ศูนย์วิจัย และคลินิกฝึกหัด
หลักสูตรแพทย์อินเตอร์ เหมาะกับใคร?

หลักสูตรแพทย์อินเตอร์นี้เหมาะกับน้อง ๆ ที่…
- มีพื้นฐานภาษาอังกฤษดี หรืออยากพัฒนาทักษะภาษาแบบใช้งานจริง
- วางแผนจะไปต่อเฉพาะทางหรือทำงานแพทย์ในต่างประเทศ
- ชอบการเรียนที่เน้นวิเคราะห์ ไม่เน้นท่องจำ
- อยากได้หลักสูตรที่ “ทันสมัย + มาตรฐานสากล” แต่ยังเรียนในไทย
คะแนนที่ใช้ยื่นคณะแพทย์อินเตอร์

การเตรียมตัวเพื่อสมัครหลักสูตรแพทย์อินเตอร์ จำเป็นต้องเริ่มแต่เนิ่น ๆ พี่แนะนำให้วางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 ปี
Requirement MED KMITL :
- กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าตามระบบกระทรวงศึกษาธิการ หรือ
- สำเร็จการศึกษาหรือกําลังศึกษาอยู่ในหลักสูตรนานาชาติทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ในระดับ Grade 12 ตามระบบการศึกษาของอเมริกา หรือ Year 13 ตามระบบการศึกษาของอังกฤษ
– มีผลการสอบ 3 รายวิชา ได้แก่ (1) Biology, (2) Chemistry (3) Physics หรือ Math หรือผลการสอบแบบ Combined science
- ผลสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ
– IELTS (Academic) ≥ 6.5
– TU-GET (Paper-Based) ≥ 550
– TU-GET (Computer-Based) ≥ 79
– TOEFL (IBT) ≥ 79
- มีคะแนน UCAT (ไม่กำหนดคะแนนขั้นต่ำ)
- Portfolio จํานวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคํานํา) พิมพ์ด้วยภาษาไทยหรือภาษาองักฤษ ตามรูปแบบ ดังนี้
– มีผลการสอบ 3 รายวิชา ได้แก่ (1) Biology, (2) Chemistry (3) Physics หรือ Math หรือผลการสอบแบบ Combined science
– IELTS (Academic) ≥ 6.5
– TU-GET (Paper-Based) ≥ 550
– TU-GET (Computer-Based) ≥ 79
– TOEFL (IBT) ≥ 79
หน้าที่1 ข้อมูลส่วนตัว แนะนำตัวเอง
หน้าที่ 2 ประวัติการศึกษา
หน้าที่ 3 ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) (เกรด 5-6 เทอม) หรือประกาศนียบัตร หรือหลักฐานสําเร็จการศึกษาที่ระบุวันสําเร็จการศึกษา
หน้าที่ 4 ผลคะแนนภาษาอังกฤษ
หน้าที่ 5 ผลคะแนนสอบ UCAT (รูปแบบ PDF.)
หน้าที่ 6 ความรู้ความสามารถพิเศษ ทักษะ การวิจัยและวิชาชีพ
หน้าที่ 7 กิจกรรมด้านวิชาการต่างๆ
หน้าที่ 8 กิจกรรมต่างๆ ด้านคุณธรรมจริยธรรม การบํารุงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสังคม
หน้าที่ 9 กิจกรรมกีฬา ส่งเสริมสุขภาพ หรือกิจกรรมอื่นๆ เพื่อพัฒนา ความสามารถการดำรงชีวิตในสังคม
หน้าที่ 10 รางวัล ผลการประกวดโครงการ หรือกิจกรรมด้านอื่นๆ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม >> http://www.cicm.tu.ac.th/
Requirement MED CICM :
- กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าตามระบบกระทรวงศึกษาธิการ
– มี GPAX 4 ภาคเรียน ไม่น้อยกว่า 3.25 - ผลการทำสอบทางด้านภาษาอังกฤษ
– IELTS (Academic) ≥ 7.0
– TOEFL (iBT) ≥ 94
– TOEFL (CBT) ≥ 240
– TOEFL (paper-based) ≥ 580
– CU-TEP ≥ 90 - ผลสอบความสามารถทางวิชาการ
– Digital SAT Overall ≥ 1200
– AS หรือ A Level ใน 3 รายวิชา ได้แก่ (1) Biology, (2) Chemistry (3) Math หรือ (4) Physics ≥ A or A*
– IB 3 วิชา ดังนี้ (1) Biology (2) Chemistry (3) Math หรือ (4) Physics ≥ 6
– AP 3 วิชา ดังนี้ (1) Biology (2) Chemistry (3) Math หรือ (4) Physics ≥ 4 - Personal Statement บรรยายถึงแรงจูงใจและความคาดหวังของการเข้าศึกษาในหลักสูตรนี้เป็นภาษาอังกฤษความยาวไม่เกิน 1,000 คํา
- Recommendation letters จากผู้อำนวยการ ครูที่ปรึกษา หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ จํานวน 2 ฉบับ
- สอบข้อเขียน MD@KMITL ใช้เวลา 2.5 ชั่วโมง แบ่งข้อสอบเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. scientific thinking
2. biomedical knowledge
3. academic writing
แม้ว่าในไทยจะมีแค่ 2 สถาบันที่เปิดหลักสูตรแพทย์อินเตอร์ แต่ทั้ง KMITL และ CICM ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ “ครบเครื่อง” และ “คุณภาพจัดเต็ม” เทียบเท่าหลักสูตรอินเตอร์ในต่างประเทศเลยค่ะ!
หากมีคำถามเกี่ยวกับการสอบเข้า คะแนนที่ใช้ หรืออยากได้คำแนะนำการเตรียมตัวเพิ่มเติม สามารถลงทะเบียน ปรึกษาวางแผนการเตรียมตัวเข้าคณะแพทย์รอบพอร์ตกับ Thai – Medical Consultation Program โปรแกรมที่จะช่วยดูแลและให้คำปรึกษาตลอดเส้นทางความฝัน Free!!!! กับพี่ ๆ Education Consultant ได้ผ่านไลน์ @igniteastar เลยน้าา
