ติว A Level เข้มข้น สำหรับหลักสูตรมัธยมปลายระบบอังกฤษ (Year 12-13) พร้อมคว้าทั้งคะแนนและคณะในฝัน ติวเนื้อหาตามบอร์ดที่น้องๆสอบ พร้อมเทคนิคการจับ Keywords และทำ Past Paper เพิ่มคะแนนพิชิต A* สำหรับน้องๆที่ศึกษาหลักสูตรนานาชาติ หรือเรียนควบคู่ IGCSE เพื่อสอบเทียบวุฒิม.6 และยื่นเข้ามหาวิทยาลัย
| Our Course |
|---|
| A Level English (First or Second Language) and Literature |
| A Level Chemistry |
| A Level Physics |
| A Level Biology |
| A Level Mathematics |
| A Level Business Studies |
| A Level Social Sciences |
| A Level Economics |
| A Level Future Math |
| A Level Pure Mathematics |
| A Level Pure Mathematics and Mechanics |
| A Level Pure Mathematics and Probability & Statistics |
| A Level Psychology |
| A Level Computer Science |
ติว A Level คอร์ส Anywhere
พิชิต A* ไปกับคอร์ส ติว A Level Mathematics และ Biology แบบออนไลน์ 100% ผ่านวิดีโอคุณภาพ จัดทำโดย ทีมครูจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก ที่มีประสบการณ์การเตรียมความพร้อมน้อง ๆ ก่อนสอบหลักสูตรนานาชาติมาหลายรุ่น
ตัวคอร์สเรียน เน้นทั้งเนื้อหาแบบปูพื้นฐาน และเตรียมพร้อมสอบจัดเต็มครบจบในที่เดียว เสริมด้วยเทคนิคการตอบคำถามยังไงให้ได้ A*
- อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ
- บริหารและจัดการเวลาเรียนเองได้
- ทบทวนเนื้อหาเพื่อให้เข้าใจและจดจำได้ดีขึ้น
ติว A Level คอร์ส 1 On 1
การเรียนแบบ 1 On 1 สามารถเลือกได้ว่า จะเรียนแบบตัวต่อตัวกับครู หรือ สามารถจัดกลุ่มเล็กๆ มาเองได้ โดยทีมครูโปรไฟล์ระดับเทพ เลือกเรียนเนื้อหาที่ต้องการ เวลาในการเรียนและสไตล์การเรียนที่น้องๆชอบ
- เน้นการดูแลแบบใกล้ชิด สอนตัวต่อตัว
- แก้ไขจุดอ่อน แบบรายบุคคล
- Design Class ได้เอง ไม่ว่าจะเน้นทำโจทย์ หรือเจาะบางบทที่ไม่เข้าใจ
A Level คืออะไร?
A Level (Advanced Level General Certificate of Secondary Education) คือ การสอบของประเทศอังกฤษที่ทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่า ม.6 ในประเทศไทย ซึ่งการเรียนในระดับ A Level เริ่มเรียนหลังจากการจบการศึกษาภาคบังคับในระดับมัธยมศึกษาของอังกฤษ (IGCSE)
วุฒิ A Level ใช้สำหรับนักเรียนอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ โดยใช้เวลาเรียนทั้งหมด 2 ปี (Year 12-13) ส่วนใหญ่นักเรียน A Level จะลงเรียนเพียง 2-4 วิชา เพื่อที่จะได้ศึกษาแต่ละวิชาอย่างลึกซึ้ง การเรียน A Level นั้นอาจเรียกได้อีกอย่างว่า Sixth Form
*หมายเหตุ นักเรียนที่สอบ IGCSE ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป จะต้องสอบ AS/ A Level อีก 3 วิชาด้วยจึงจะนำผลไปเทียบวุฒิระดับม.6 ได้
เรียน A Level กับ ignite A*
สอนโดยทีมอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ
เรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์ผู้สอน ปรับแต่งกำหนดบทเรียนที่เหมาะสม เลือกเวลาเรียนเอง
จัดเวลาเรียนเองได้
สามารถเรียนเวลาไหนก็ได้ น้องๆสามารถเลือกเวลาเรียนเองได้ ตามความเหมาะสมกับไลพ์สไตล์ตัวเอง
เรียน Private 1 on 1
เรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์ผู้สอน ปรับแต่งกำหนดบทเรียนที่เหมาะสม เลือกเวลาเรียนเอง
เรียน Online Anywhere
เรียนที่ไหนก็ได้ผ่าน application สะดวกสบาย ยืดหยุ่นเวลาได้มากขึ้น
Choose Your Way of Learning
1 on 1
Personalised Learning Style
Flexible Pace and Lesson Plan
Private Intensive Class or Study with Your Group of Friends
Mini Class
Small Live Group Class, Extra Fun
Effective Compact Lesson Covering All Topics
Select Your Course Based on Your Needs
Anywhere
Online Courses on Anywhere Applications
Select Time your needs to learn everywhere
What our students are saying
International Curriculum
ข้อมูลทั่วไปสำหรับการสอบ A Level
การสอบ A-level มีกี่ระดับ?
การสอบ A Level แบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่
- AS Examination(Advanced Subsidiary) โดยทั่วไปคือการเรียนในช่วง Year 12
เกรดที่จะได้ ได้แก่ A, B, C, D, E ซึ่งไม่ว่าจะได้เกรดอะไรมาก็ตาม จะถือว่าสอบผ่านทั้งหมด แต่จะถือว่าการสอบผ่าน AS Level เป็นการจบแค่ครึ่งหนึ่งของหลักสูตร GCE A Level - A2 Examination โดยทั่วไปคือการเรียนในช่วง Year 13
เกรดที่จะได้ ได้แก่ A*, A ,B ,C ,D ,E
ค่าสมัครสอบ A Level
ค่าสมัครสอบปกติจะอยู่ที่ 6,226-9,190 บาทต่อวิชาสอบ ขึ้นอยู่กับว่าเลือกสอบวิชาใด แต่หากผู้สมัครสอบลงสมัครช้ากว่ากำหนด จะต้องชำระค่า Late Entry (อ้างอิงจากราคาของ British Council แต่หากสมัครที่ Harrow ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย)
การคิดคะแนนของ A Level
ความยากง่ายของข้อสอบแต่ละปีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตามหลักสูตร ดังนั้นการคิดคะแนน Examiner จะคิดจาก Grade Boundaries ของข้อสอบในแต่ละปีเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้สอบในทุกรอบปี ซึ่ง Grade Boundaries คือคะแนนต่ำสุดที่ผู้สอบต้องสอบให้ผ่านในรอบนั้นเพื่อให้ได้เกรด ซึ่งมาจาก Mark Scheme ที่ผ่านการคำนวณแล้วจากคะแนนสถิติ และการคำนวรของผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ
*การคิดคะแนนจะไม่ดูจากแค่คะแนนดิบ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้สอบในทุกปี
- เมื่อนักเรียนทำข้อสอบเสร็จ ตัวข้อสอบจะถูกส่งไปตรวจโดย Examiner จาก Cambridge โดยที่ข้อสอบแบบ Multiple Choices จะถูกตรวจโดยคอมพิวเตอร์ ส่วนข้อสอบเขียนของผู้สอบบางคนจะถูกส่งไปตรวจโดยทีม Experienced Senior examiner เหตุผลที่ส่งไปเพียงบางคนนั้น เพราะทางทีมผู้ตรวจข้อสอบต้องการ Set Standard โดยผู้ตรวจจะตรวจข้อสอบเทียบกับ Mark Scheme เพื่อกำหนดมาตรฐานในการตรวจข้อสอบของรอบนั้นขึ้นมา
- เมื่อได้มาตรฐานการตรวจข้อสอบของปีนั้น ทีม Examiner ก็จะตรวจข้อสอบทั้งหมดเพื่อให้ได้ คะแนนดิบ (Raw Score) ของผู้เข้าสอบออกมา
- ทีมงานจะนำคะแนนดิบที่ได้ทั้งหมด รวมกับข้อมูลทางสถิติที่มี กำหนดเกณฐ์ขั้นต่ำ หรือ Grade Boundaries ที่กำหนดว่า นักเรียนต้องได้คะแนนดิบเท่าไหร่ถึงจะได้เกรด A* A B เป็นต้น ซึ่งมีหลายปัจจัยในการกำหนด Grade Boundaries นี้ ทั้งความยากง่ายของข้อสอบปีที่แล้วมา และความสามารถของผู้สอบทั้งหมดในรอบนั้น จะส่งผลทั้งหมดกับการคำนวณ Grade Boundaries ในแต่ละปี
- สุดท้ายทีม examiner จะนำคะแนนดิบของผู้เข้าสอบมาเทียบกับ Grade Boundaries แล้วออกมาเป็นเกรดในที่สุด
A Level คืออะไร?
A Level เป็นวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลาย หลักสูตรสหราชอาณาจักร ซึ่งจะตรงกับช่วงชั้น Year 12 - Year 13 (เทียบเท่าม.5-6) โดยน้องๆจะต้องเลือกลงเรียนประมาณ 3-4 วิชา ซื่งมีเนื้อหาเข้มข้นและเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง ใช้ในการยื่นศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในคณะนั้นๆ ดังนั้นน้องๆควรตั้งเป้าหมายและศึกษาเกี่ยวกับ Requirement การรับสมัครโดยใช้วิชา A Level ในมหาวิทยาลัยและคณะที่สนใจ
หลักสูตร A Level แบ่งออกเป็นกี่ส่วน?
A Level นั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสองช่วง โดยช่วงแรกจะเรียกว่า AS Level (Advanced Subsidiary Level) ซึ่งเรียนในชั้น Year ผลสอบจะมีตั้งแต่เกรด A จนถึง E ส่วนช่วงที่สองจะเรียกว่า A Level (Advanced Level) เรียนในช่วง Year 13 ซึ่งเนื้อหาและความท้าทายก็จะยากขึ้นเช่นกัน โดยนับผลเป็นเกรดตั้งแต่ A* ถึง E
เรียน A Level ควรได้เกรดอะไร?
สำหรับ AS/A Level นั้นน้องๆควรจะสอบให้ได้เกรด C ขึ้นไป ตัวผล A Level นั้นมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีเกณฑ์ในการรับนักเรียนเข้าศึกษาไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากน้องได้เกรดดีในระดับ A* หรือ A ก็จะเพิ่มตัวเลือกในการยื่นศึกษาต่อมหาวิทยาลัยระดับท็อปเช่นกัน